Saturday, February 28, 2009

ตุ๊กตาล้มลุก จาก คุณ วินทร์ เลียววารินทร์

ตุ๊กตาล้มลุก ก่อนฟองสบู่แตกในปี พ.ศ. 2540 ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ เป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์และนักธุรกิจเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ฐานะของเขามั่นคงเช่นภูผา คนไม่น้อยมองดูเขาด้วยความอิจฉา และอยากมีฐานะดีเช่นเขาบ้างเมื่อเศรษฐกิจล่มในปีนั้น หลายธุรกิจล้มชั่วข้ามคืน คนรวยจำนวนมากกลายเป็นคนล้มละลาย เช่นเดียวกับเขา หนี้สินล้นพ้นตัวในทันใดในเวลาเพียงหนึ่งกะพริบตา เขากลายเป็นเทวดาตกสวรรค์สัจธรรมข้อหนึ่งที่หลายคนรู้แต่ไม่ยอมรับคือ ความไม่แน่นอนใช่! ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน เช่นที่พุทธองค์ตรัสสอน มีลาภก็มีเสื่อมลาภ มียศก็มีเสื่อมยศ มีเงินเดือนสูงๆ ได้ ก็ถูกลดเงินเดือนได้ในสถานการณ์ตกต่ำที่สุด หลายคนทำใจไม่ได้ หลายคนมีอาการ ‘จมไม่ลง’ และอีกหลายคนเลือกการจบชีวิตสัจธรรมอีกข้อหนึ่งที่หลายคนไม่รู้และไม่อยากรู้คือ ไม่มีสิ่งใดตกต่ำไปได้ตลอดกาล มีลงก็มีขึ้น มันเป็นหลักปฏิกิริยาทางฟิสิกส์ธรรมดา หากกล้าทำใจ กล้าที่ยอมรับความจริง และกล้าที่จะยอม ‘ลดตัว’ ย่อมลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง และครั้งนี้มันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น มีภูมิคุ้มกันต่ออุปสรรคมากขึ้นชีวิตไม่ใช่โทรทัศน์ที่มีเพียงช่องเดียว ไม่ได้มีทางเดินทางเดียว ยามรวยก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนรวย เมื่อยากจนก็สามารถใช้ชีวิตแบบยากจนได้ใช้ชีวิตอย่างตุ๊กตาล้มลุกล้มได้ก็ลุกได้หลายคนเกลียดฤดูร้อน อากาศร้อนจัด อยู่เฉยๆ ก็เหงื่อไหลไคลย้อย ไม่มีความสุขเลยสักนิดแต่ลองมองให้ดี มีแต่ในฤดูนี้ที่ดอกไม้นานาชนิดเบ่งบานไม่มีอะไรในโลกที่มีแต่ความแย่นักแสดงรางวัลตุ๊กตาทอง แพทริเชีย นีล เป็นคนหนึ่งที่ผ่านชีวิตทั้งจุดที่รุ่งโรจน์และด้านมืด เธอเคยป่วยหนักอยู่ในสภาพโคม่านานสามอาทิตย์ เดินเหินไม่ได้ ต้องหัดเดินและหัดพูดใหม่ เธอบอกว่าเธอทำสำเร็จเพราะ “ฉันดื้อซะอย่าง ก็เท่านั้นเอง”เธอกล่าวว่า “ทัศนคติเชิงบวกทางใจที่เข้มแข็ง จะสร้างปาฏิหาริย์ยิ่งกว่ายาวิเศษใดๆ”ศิริวัฒน์ไม่ได้เลือกทางฆ่าตัวตายเช่นบางคน แต่ลงมือทำแซนด์วิชออกมาขาย เขายืนขายเองเขาบอกว่าแรกๆ เขารู้สึกอายที่ต้องตากหน้าขายของเอง แต่เมื่อทำใจได้ มันก็เป็นเพียงการทำงานสุจริต คนที่ควรจะอายคือคนที่ไปโกงเขาต่างหากผ่านไปช่วงหนึ่ง เขาก็ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง นอกจากจะดึงตัวเองขึ้นจากเหวแล้ว ยังทำให้ลูกน้องอีกหลายชีวิตอยู่ต่อไปได้ สุนทรภู่เขียนว่า “โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้ ยากแล้วมีใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน ที่ทุกข์โศกโรคภัยร้อนค่อยผ่อนปรน คงพ้นโทษทัณฑ์ไม่บรรลัย”ไม่มีสุขใดถาวร และทุกข์ใดคงอยู่ตลอดกาลเมื่อมองโลกด้านที่สวยงาม ก็จะพบว่า แม้ในหุบเหวที่ดำมืดก็ยังมีแสงสว่าง วินทร์ เลียววาริณ 28 กุมภาพันธ์ 2552